อุปกรณ์ภายนอกอาจเป็นภัยที่แฝงอยู่ใกล้ตัว ทุกครั้งที่เสียบ USB Drive หรือ เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน อาจทำให้ระบบขององค์กรเสี่ยงต่อมัลแวร์ การรั่วไหลของข้อมูล หรือการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต แม้อุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยให้ทำงานสะดวกขึ้น แต่ก็อาจกลายเป็นช่องโหว่ด้านความปลอดภัยได้เช่นกัน โดยเฉพาะในยุคที่หลายธุรกิจต้องพึ่งพาการใช้อุปกรณ์ภายนอกมากขึ้น ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น การเข้าใจถึงความเสี่ยงที่แฝงอยู่ และเตรียมมาตรการป้องกันอย่างเหมาะสม จึงเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาความปลอดภัยของระบบและข้อมูลสำคัญในองค์กร

ประเภทของอุปกรณ์ภายนอกและเหตุผลที่ต้องรักษาความปลอดภัย
เมื่อพูดถึงความเสี่ยงจากอุปกรณ์ภายนอก หลายคนอาจนึกถึง USB Drive หรือแล็ปท็อปสำหรับทำงานนอกสถานที่เป็นอันดับแรก แต่ในความเป็นจริงแล้ว นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีอุปกรณ์อีกหลายประเภทที่อาจหลุดรอดจากมาตรการความปลอดภัย และกลายเป็นช่องทางให้ข้อมูลสำคัญรั่วไหลโดยไม่รู้ตัว ลองมาดูกันว่าอุปกรณ์เหล่านี้มีอะไรบ้าง
อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลภายนอก (External Storage Devices)
อุปกรณ์อย่าง SSD แบบพกพา, แผ่น CD/DVD และระบบ NAS (Network-Attached Storage) มักถูกใช้ในการ ถ่ายโอนหรือสำรองข้อมูล แต่หากไม่มีมาตรการรักษาความปลอดภัย อุปกรณ์เหล่านี้ อาจทำให้ข้อมูลสำคัญรั่วไหลหรือถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาตได้ง่าย
สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต (Smartphones & Tablets)
แม้จะสะดวกในการใช้งานแต่สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตก็มีความเสี่ยงสูงกว่า แล็ปท็อปและคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ โดยเฉพาะเมื่อเชื่อมต่อกับเครือข่ายของบริษัท หากอุปกรณ์ติดมัลแวร์ หรือซิงค์ข้อมูลกับ Cloud ที่ไม่มีการป้องกัน อีเมลหรือเอกสารสำคัญก็อาจรั่วไหลได้ในพริบตา
เครื่องพิมพ์และสแกนเนอร์ (Printers & Scanners)
หลายคนอาจไม่คิดว่า เครื่องพิมพ์และสแกนเนอร์ จะเป็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัย แต่หากเอกสารถูกส่งไปยังอุปกรณ์ที่ไม่ได้รับการป้องกัน ข้อมูลอาจ ถูกดักจับและรั่วไหล ได้ง่าย การตั้งค่าความปลอดภัยและตรวจสอบการใช้งานจึงเป็นสิ่งจำเป็น
อุปกรณ์ IoT (IoT Devices)
อุปกรณ์ Internet of Things (IoT) เช่น กล้องวงจรปิด และสมาร์ทเทอร์โมสแตท อาจเป็นช่องโหว่ของเครือข่ายองค์กร เพราะหลายอุปกรณ์รหัสผ่านไม่มีความปลอดภัย แฮ็กเกอร์สามารถใช้ช่องโหว่นี้เจาะระบบ และเข้าถึงข้อมูลของบริษัทได้
ในส่วนถัดไป เราจะมาดูกันว่า อุปกรณ์เหล่านี้มีความเสี่ยงอะไรบ้างและธุรกิจควรป้องกันอย่างไร
ความเสี่ยงที่มาจากอุปกรณ์ภายนอก
การขโมยข้อมูล (Data Theft)
อุปกรณ์ภายนอกอาจถูกใช้เพื่อโอนข้อมูลสำคัญออกจากระบบขององค์กรโดยที่ไม่มีใครรู้ตัว ตัวอย่างเช่น พนักงานที่ไม่หวังดีหรือแฮ็กเกอร์ อาจใช้ USB Drive หรือฮาร์ดไดรฟ์คัดลอกข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ของบริษัทไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
มัลแวร์และไวรัส (Malware & Viruses)
อุปกรณ์ภายนอก เช่น USB Drive หรือฮาร์ดไดรฟ์ อาจเป็นช่องทางในการแพร่กระจายมัลแวร์และไวรัสเข้าสู่ระบบขององค์กรได้ เมื่อพนักงานเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ติดไวรัสกับคอมพิวเตอร์ มัลแวร์อาจเริ่มทำงานทันที และแพร่กระจายไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ ผ่านเครือข่าย ส่งผลให้ข้อมูลเสียหาย ถูกขโมย หรือกระทบต่อการดำเนินงานของธุรกิจ
งานวิจัยจากหลายมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ พบว่า 45%–98% ของผู้ที่ได้รับ USB Drive โดยไม่รู้ที่มา จะเสียบใช้งานกับคอมพิวเตอร์ของตนเองทันที ไม่ว่าจะที่บ้านหรือในมหาวิทยาลัย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามัลแวร์สามารถแพร่กระจายได้ง่าย หากไม่มีการระมัดระวังในการใช้งานอุปกรณ์ภายนอก
ข้อมูลสูญหายและรั่วไหล (Data Loss & Leaks)
หากอุปกรณ์ภายนอกสูญหาย ถูกขโมย หรือถูกจัดการไม่ถูกวิธี ข้อมูลสำคัญที่อยู่ภายในก็อาจตกไปอยู่ในมือของผู้อื่นได้ ตัวอย่างเช่น พนักงานที่ทำ USB Drive ที่เก็บข้อมูลลับของบริษัทหาย หรือฮาร์ดไดรฟ์ถูกขโมย อาจสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับองค์กร
การเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต (Unauthorized Access)
แฮ็กเกอร์อาจใช้ USB Drive ที่ดัดแปลงเพื่อแอบติดตั้งโปรแกรมดักจับรหัสผ่าน (Keyloggers) หรือซอฟต์แวร์อันตรายอื่นๆ เพื่อแอบเข้าถึงระบบของบริษัทโดยที่ไม่มีใครรู้ตัว
หากองค์กรสามารถตระหนักถึงและจัดการความเสี่ยงจากอุปกรณ์ภายนอกได้อย่างเหมาะสม ก็จะช่วย เพิ่มความปลอดภัยให้กับข้อมูลและเครือข่าย พร้อมลดช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้อุปกรณ์เหล่านี้

กลยุทธ์ป้องกันความเสี่ยงจากอุปกรณ์ภายนอกอย่างมีประสิทธิภาพ
หลังจากที่เราได้พูดถึงความเสี่ยงจากอุปกรณ์ภายนอกไปแล้ว ลำดับต่อไปคือวิธีป้องกันที่สามารถนำไปใช้ได้จริง แม้ไม่จำเป็นต้อง “ห้ามใช้งาน” USB Drive หรือสมาร์ทโฟนโดยสิ้นเชิงแต่ควรมีมาตรการจัดการที่รัดกุมและมีประสิทธิภาพ มาดูวิธีป้องกันที่สามารถนำไปใช้ได้จริงกัน:
กำหนดนโยบายที่ชัดเจน: ระบุแนวทางการใช้งานอุปกรณ์ภายนอกให้ชัดเจน เช่น อุปกรณ์ประเภทใดสามารถใช้ได้ ต้องเข้ารหัสหรือสแกนไวรัสก่อนใช้งานหรือไม่ เช่น งค์กรอาจกำหนดให้ USB Drive ทุกชิ้นต้องผ่านการเข้ารหัสและตรวจสอบก่อนใช้งานเสมอ
อบรมและให้ความรู้พนักงาน: ให้พนักงานเข้าใจถึงความเสี่ยงของการใช้อุปกรณ์ภายนอกและแนวทางที่ถูกต้องในการใช้งาน เช่น วิธีใช้ USB อย่างปลอดภัย, วิธีหลีกเลี่ยงฟิชชิ่ง และการแจ้งเตือนเมื่ออุปกรณ์สูญหาย การอบรมอาจจัดผ่านคอร์สออนไลน์ เวิร์กช็อปภายใน หรือการสื่อสารผ่านช่องทางภายในองค์กร
ตรวจสอบและเฝ้าระวังสม่ำเสมอ: ทำการตรวจสอบ (Audit) และติดตามการใช้งานอุปกรณ์ภายนอกเป็นระยะ เพื่อให้แน่ใจว่ามีการปฏิบัติตามนโยบายของบริษัท ใช้ซอฟต์แวร์ตรวจสอบแบบเรียลไทม์ เพื่อตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติ เช่น การเข้าถึงไฟล์ที่ไม่ได้รับอนุญาต หรือการใช้ USB Drive ที่ไม่ผ่านการอนุมัติ
ใช้มาตรการทางเทคนิคควบคู่: เข้ารหัสข้อมูลที่จัดเก็บในอุปกรณ์ภายนอก เพื่อป้องกันการรั่วไหลในกรณีที่อุปกรณ์สูญหายหรือถูกขโมย ใช้การยืนยันตัวตนหลายขั้นตอน (Multi-Factor Authentication - MFA) เพื่อเพิ่มระดับความปลอดภัย นอกจากนี้ ควรใช้แนวคิด Zero Trust โดย จำกัดการเข้าถึงอุปกรณ์ภายนอกเฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาต และหมั่นอัปเดต ระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชัน อย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเสี่ยงจากช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
ดูแลมือถือและแท็บเล็ตเป็นพิเศษ: เข้ารหัสข้อมูลและติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส เพื่อป้องกันการโจมตีจากมัลแวร์ ตั้งค่าล็อกหน้าจอที่ปลอดภัย เช่น รหัสผ่านหรือลายนิ้วมือ หลีกเลี่ยงการ Root หรือ Jailbreak อุปกรณ์ และอย่าติดตั้งแอปจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้ ควรใช้ระบบจัดการอุปกรณ์เคลื่อนที่ (MDM) เพื่อตรวจสอบและป้องกันอุปกรณ์ในกรณีที่สูญหายหรือถูกขโมย
ปกป้องแล็ปท็อปเสมือนอุปกรณ์ภายนอก: เนื่องจากแล็ปท็อปมักถูกใช้งานนอกเครือข่ายที่ปลอดภัยขององค์กร จึงควรมีมาตรการป้องกันเหมือนอุปกรณ์ภายนอก เช่น เข้ารหัสข้อมูล ติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัส และตั้งรหัสผ่านที่รัดกุม ตามนโยบายความปลอดภัยของบริษัท นอกจากนี้ พนักงานควรรู้วิธีใช้งานแล็ปท็อปอย่างปลอดภัย เพื่อลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีทางไซเบอร์
ติดตั้งระบบควบคุมอุปกรณ์:ใช้ระบบควบคุมอุปกรณ์ เช่น SearchInform เพื่อเฝ้าระวัง บล็อก และบันทึกการใช้งานอุปกรณ์ภายนอกระบบนี้ช่วยป้องกันการโอนย้ายข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และบล็อกการรันซอฟต์แวร์อันตราย ลดความเสี่ยงจากมัลแวร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ