สั่งซื้อโทรกลับ

SC Awards 2025 เพิ่มคุณค่าและความเชื่อมั่นให้ธุรกิจของคุณได้อย่างไร ?

ในปี 2025 ที่ผ่านมา ESET PROTECT Platform ได้รับรางวัลจากหน่วยงานและผู้ทดสอบอิสระมากมาย เช่น

แต่รางวัลที่มีคุณค่าที่สุด ทั้งสำหรับ ESET เอง และองค์กรที่ใช้งาน ESET PROTECT Platform ก็คือ รางวัล SC Awards 2025: ESET - Best Business Continuity, Disaster, Ransomware Recovery Solution มาดูกันว่ารางวัลนี้จะช่วยเพิ่มคุณค่าและความเชื่อมั่นให้กับธุรกิจของคุณได้อย่างไร


คุณค่าของ SC Awards

คุณค่าของรางวัล SC Awards มาจากเหตุผล 5 ประการด้วยกัน คือ

  • ความน่าเชื่อถือและศักดิ์ศรีของ SC Awards เอง
  • การลงคะแนนโดยคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ของอุตสาหกรรมด้านความปลอดภัยไซเบอร์
  • เกณฑ์การตัดสินที่โปร่งใสและเข้มงวด เป็นที่เชื่อถือได้
  • ESET ได้รางวัลชนะเลิศ "โซลูชันที่ดีที่สุดเพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจ การกู้คืนจากภัยพิบัติ และแรนซัมแวร์" ซึ่ง Ransomware กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของทุกองค์กรทั่วโลกในขณะนี้
  • การประกาศรางวัลบนเวทีระดับโลก พร้อมงาน RSA Conference 2025 ที่ได้รับการยอมรับ และความน่าเชื่อถือสูงสุดในรอบปี

ความน่าเชื่อถือและศักดิ์ศรีของ SC Awards

SC Awards คือรางวัลประจำปีที่จัดโดย SC Media ภายใต้เครือ CyberRisk Alliance (CRA) ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งใน รางวัลด้าน Cybersecurity ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกเทคโนโลยี รางวัลนี้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องยาวนานและกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 28 ในปี 2025 โดยมีผู้ส่งผลิตภัณฑ์และโซลูชันเข้าประกวด “หลายร้อยรายการ” ครอบคลุมกว่า 33 หมวดหมู่

กระบวนการตัดสินของ SC Awards ดำเนินการโดย คณะกรรมการอิสระ ซึ่งประกอบด้วย CISO, ผู้ปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ และผู้เชี่ยวชาญอุตสาหกรรม จากหลายภาคส่วน

การพิจารณาจะให้ความสำคัญกับ คุณค่าทางเทคนิค ผลกระทบในตลาด และความสามารถในการแก้ปัญหาในโลกความเป็นจริง โดยทั้งหมดอยู่ภายใต้ หลักการตัดสินที่โปร่งใสและเข้มงวด ซึ่งระบุไว้อย่างชัดเจนในเอกสารและเว็บไซต์ทางการของโครงการ SC Media / CRA


คณะกรรมการตัดสินเป็นใคร ?

คณะกรรมการตัดสิน SC Awards เป็นบุคคลากรระดับ CISO และผู้เชี่ยวชาญอิสระมากกว่า 50 คนจากหลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งยังมีคณะกรรมการที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และมีบทบาทเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมไซเบอร์ระดับโลกอีกด้วย เช่น

  • Alissa “Dr. Jay” Abdullah — Deputy CSO ที่ Mastercard และเคยเป็นรอง CIO ทำเนียบขาว (ยุคโอบามา)
  • Col. Cedric Leighton — นักวิเคราะห์การทหารของ CNN และอดีตพันเอกกองทัพอากาศสหรัฐฯ, ผู้ร่วมก่อตั้ง CYFORIX
  • Michael (Mike) Fey — ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ Island อดีต President & COO ของ Symantec และ CTO ของ McAfee/Intel Security
  • Marcus H. Sachs — SVP & Chief Engineer ที่ Center for Internet Security (CIS)
  • Vandana Verma Sehgal — ผู้นำด้าน Security ที่ Snyk และรองประธานบอร์ดโลกของ OWASP

ซึ่งรายชื่อของคณะกรรมการทั้งหมด สามารถเข้าไปดูได้ที่หน้า Meet The Judges


เกณฑ์การตัดสิน

กระบวนการพิจารณาให้รางวัล มุ่งเน้นในด้าน Technical merit, Market impact, และ ความสามารถในการแก้ปัญหาในการใช้งานจริง ไม่ใช่เพียงการสาธิตหรือคำโฆษณา ทำให้รางวัลเป็น “ตรารับรองเชิงกลยุทธ์” ที่เป็นกลางและน่าเชื่อถือ สำหรับองค์กรที่ต้องการหลักฐานยืนยัน ว่าผลิตภัณฑ์ใช้งานได้จริง ขยายผลได้ และตอบโจทย์ที่ธุรกิจกำลังเผชิญ การตัดสินเกิดจาก “การคัดเลือกโดยคณะกรรมการ” ซึ่งมองทั้งคุณภาพทางเทคนิค และผลกระทบเชิงตลาด รวมถึงความสามารถในการแก้ปัญหาจริง


ประกาศรางวัลพร้อมกับงาน
RSA Conference 2025

SC Awards 2025 จะประกาศรายชื่อผู้ชนะอย่างเป็นทางการแบบ Live
ที่เมือง San Francisco ในวันที่ 29 เมษายน 2025 ซึ่งจัดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับงานประชุมระดับโลกอย่าง RSA Conference (RSAC) 2025

งาน RSA Conference เป็นงานประชุม Cyber Security ที่ยิ่งใหญ่ เป็นการรวมผู้เชี่ยวชาญและผู้บริหารด้านไซเบอร์ขององค์กรชั้นนำของโลกมาอยู่ในที่เดียวกัน ทำให้เกิดการยอมรับและความน่าเชื่อถือสูงสุดของผู้ชนะรางวัลในรอบปี

บรรยากาศวันประกาศรางวัล SC Awards

ESET ชนะใจคณะกรรมการได้อย่างไร ?

ESET ต่างจากโซลูชันอื่นที่อาศัย Windows Volume Shadow Copy (VSS) เป็นหลักในการทำสำเนาข้อมูล โดย ESET ได้พัฒนาเทคโนโลยีการสำเนาข้อมูลขึ้นมาเอง และเป็น กรรมสิทธิ์ เฉพาะของ ESET

เทคโนโลยีสำเนาข้อมูลนี้ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้อย่าง อิสระจาก VSS และมีการทำงานในเชิงรุกตั้งแต่ต้นทางก่อนการถูกโจมตี จากนั้นเมื่อ ESET Ransomware Shield ตรวจพบพฤติกรรมที่เข้าข่าย Ransomware ระบบป้องกันนี้ก็จะสร้างสำเนาสำรองที่ปลอดภัยและไม่สามารถถูกแตะต้องได้ (untouchable) ทันทีแบบเรียลไทม์ และแยกเก็บออกจากข้อมูลหลัก
จากนั้นระบบจะตัดสินใจทันทีระหว่าง หยุดยั้งกระบวนการอันตราย ถ้าเป็นภัยคุกคามจริง หรือ ลบสำเนาชั่วคราวนั้นทิ้งไป หากประเมินแล้วว่าไม่ใช่ภัยคุกคาม เพื่อลดภาระพื้นที่จัดเก็บ

เทคโนโลยีการรับมือ Ransomware ของ ESET จึงมีจุดเด่นคือ เบาเครื่องแต่ทรงพลัง รองรับการใช้งานได้ตั้งแต่ SMB ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ รวมไปถึงผู้ให้บริการแบบจัดการ (MSP) ด้วย ซึ่งช่วยให้ข้อมูลขององค์กรที่ถูกโจมตีสามารถ กู้คืนระบบได้รวดเร็ว โดยไม่ทำให้การดำเนินงานสะดุด และที่สำคัญช่วยลดโอกาสที่ต้องจ่ายค่าไถ่เพื่อแลกข้อมูลกลับมา

สิ่งที่ทำให้ ESET โดดเด่นไม่ได้มีแค่เทคโนโลยี แต่รวมถึง ปรัชญาการทำงานขององค์กร ด้วย

ESET ยังคงขับเคลื่อนโดยทีมวิศวกรชุดผู้ก่อตั้ง ทำให้นวัตกรรมเดินหน้าไปพร้อมกับความเชื่อถือได้อย่างสม่ำเสมอ ด้านการสนับสนุนก็ครอบคลุมกว่า 35 ภาษา ใกล้ชิดผู้ใช้ในแต่ละภูมิภาค พร้อมชื่อเสียงด้าน อัตราการแจ้งเตือนผิดพลาดต่ำ (Low false positives) และ ผลกระทบต่อระบบน้อยมาก จนสามารถดูแล Endpoint นับหมื่นเครื่องด้วยทีมขนาดกะทัดรัดได้จริง ซึ่งผลลัพธ์ที่ผู้บริหารสัมผัสได้คือ ความปลอดภัยที่ฉลาด ขยายตัวได้ และผสานเข้ากับงานประจำวันอย่างไร้รอยต่อ ในยุคที่ภัยคุกคามเกิดขึ้นตลอดเวลา เทคโนโลยีการกู้คืนจาก Ransomware ของ ESET จึงมอบให้ได้มากกว่า “การป้องกัน”

นั่นคือ ความมั่นใจและความอุ่นใจ ว่าองค์กรจะฟื้นตัวได้เร็วและเดินหน้าต่อได้ แม้เผชิญเหตุไม่คาดคิดก็ตาม



คุณสมบัติของ ESET – Ransomware Remediation

1. ลด Downtime และความเสียหายจากการหยุดชะงัก

หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ESET ได้รับรางวัลในหมวด Best Business Continuity, Disaster, Ransomware Recovery Solution คือความสามารถในการลดผลกระทบทางธุรกิจจากเหตุการณ์ “ข้อมูลถูกเข้ารหัส” ซึ่งมักส่งผลต่อทั้ง รายได้ ชื่อเสียง และความเชื่อมั่นของลูกค้า แนวทางของ ESET ที่มุ่งเน้นการ “กู้คืนข้อมูลก่อนเกิดความเสียหาย” ช่วยให้ธุรกิจกลับมาทำงานได้เร็วขึ้น ลดเวลาหยุดชะงัก (RTO) และลดการสูญเสียโอกาสเชิงรายได้อย่างเป็นรูปธรรม

2. ลดความเสี่ยงจากการจ่ายค่าไถ่ และแรงกดดันเชิงกฎหมาย/สัญญา

เมื่อมีแนวทางกู้คืนที่เชื่อถือได้ ความจำเป็นในการเจรจาค่าไถ่ลดลง ต้นทุนความเสี่ยงจากค่าปรับ หรือการผิดสัญญาลูกค้า ก็ลดลงตามไปด้วย รางวัลจากเวทีใหญ่ สะท้อนว่า “แนวทางนี้ผ่านการพิจารณาโดยคณะกรรมการอิสระแล้ว”

3. สื่อสารง่ายในภาษาของผู้บริหาร

คุณค่าของรางวัลนี้ยังเชื่อมโยงกับแนวคิดด้าน “ความต่อเนื่องทางธุรกิจ” ผู้บริหารที่ไม่ใช่สายเทคนิค ก็เข้าใจได้ทันทีว่า ESET – Ransomware Remediation ลดการหยุดชะงักอย่างไร และช่วยสร้าง ความมั่นใจต่อแผน BCDR ที่องค์กรมีอยู่เดิมเพียงใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรางวัลประกาศในเวที RSAC ซึ่งมีผู้มีอิทธิพลในอุตสาหกรรมเข้าร่วมจำนวนมาก


ESET – Ransomware Remediation ทำงานอย่างไรในมุมที่ไม่เทคนิค

หากสรุปแบบ “ภาพกว้าง” การทำงานของ ESET Ransomware Remediation คือ

  1. เฝ้าสังเกตพฤติกรรมผิดปกติ ตรวจจับการกระทำที่เข้าข่ายเป็นภัย เช่น การเข้ารหัสไฟล์ หรือมีลำดับการแก้ไขไฟล์แบบรวดเร็วผิดปกติ เป็นต้น
  2. สร้างสำเนาไฟล์แบบเข้ารหัสแยกส่วนทันที (real-time isolated backups) ซึ่งผู้โจมตีเข้าถึงไม่ได้
  3. หยุดกระบวนการที่เป็นอันตรายและกู้คืนไฟล์ที่เสียหายโดยอัตโนมัติ ในกรณีที่ระบบวิเคราะห์แล้วว่าเป็น “ภัยจริง” แต่ถ้าหากไม่ใช่ ระบบจะลบสำเนาชั่วคราวนั้นออกไป เพื่อไม่ให้เปลืองพื้นที่จัดเก็บ

ทั้งหมดนี้อยู่ใน ESET PROTECT หรือ Management Console ที่ช่วยให้ทีม IT หรือทีม SEC สามารถใช้งานผ่าน คอนโซลเดียวกัน โดยไม่ต้องติดตั้งระบบแยกเฉพาะงานกู้คืนข้อมูล และที่สำคัญคือ เทคโนโลยีนี้ทำงานโดย ไม่พึ่งพา VSS จึงช่วยป้องกันปัญหาคลาสสิก “โดนเข้ารหัสทั้งไฟล์ต้นฉบับและลบสำเนาเงา (Shadow Copy/VSS) พร้อมกัน” ได้ในตัว



รางวัลที่แปลงเป็นความมั่นใจเชิงกลยุทธ์ให้องค์กรของคุณ

การที่ ESET Ransomware Remediation คว้ารางวัล Best Business Continuity/Disaster/Ransomware Recovery Solution ใน SC Awards 2025 ไม่ได้เป็นเพียง “โลโก้สวย ๆ บนสไลด์นำเสนอ” แต่เป็น หลักฐานระดับอุตสาหกรรม ที่ยืนยันว่าแนวทางของ ESET ตอบโจทย์หัวใจสำคัญของธุรกิจได้จริง ทั้งการฟื้นตัวได้รวดเร็ว ลด Downtime ลดความเสี่ยงค่าไถ่ และควบคุมความต่อเนื่องของบริการได้ดี ในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด

ยิ่งไปกว่านั้น รางวัลนี้ยังประกาศบนเวทีระดับโลกอย่าง RSA Conference (RSAC) พร้อมการสื่อสารอย่างโปร่งใสจาก CRA/SC Media เกี่ยวกับกระบวนการตัดสิน จึงทำให้รางวัลนี้เป็น ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือและใช้ได้จริง สำหรับการเสนออนุมัติงบประมาณหรือการขยายการใช้งานได้อย่างมั่นใจ


ต้องการแผนรับมือ Ransomware ที่มั่นใจ? ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และทดลองใช้งานฟรี ได้ที่ www.activemedia.co.th