ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลส่วนตัวของเราเชื่อมโยงกับโลกออนไลน์ไปแทบทุกด้าน คำถามที่หลายคนเริ่มกังวลมากขึ้นคือ "ฉันถูกแฮกหรือยังนะ?" เพราะการถูกแฮกไม่ได้หมายถึงแค่เข้าใช้งานบัญชีธนาคารไม่ได้ แต่อาจรวมถึงอีเมล โซเชียลมีเดีย ข้อมูลลูกค้า หรือแม้แต่รหัสผ่านที่รั่วออกไปโดยเราไม่รู้ตัว
ปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่คุณสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ฟรี ว่าข้อมูลของคุณเคยหลุดไปอยู่ในมือของแฮกเกอร์หรือไม่!
เว็บไซต์ตัวช่วย: Have I Been Pwned?
“Have I Been Pwned” (HIBP) เป็นเว็บไซต์นี้ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลจากเหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหลทั่วโลก ทั้งอีเมล รหัสผ่าน และข้อมูลบัญชีอื่น ๆ ที่แฮกเกอร์นำออกเผยแพร่ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบได้ว่า อีเมลของตัวเองเคยมีข้อมูลรั่วไหลหรือไม่
HIBP ก่อตั้งโดย Troy Hunt นักวิจัยความปลอดภัยไซเบอร์ระดับโลก และเป็นที่ยอมรับในวงการด้าน IT Security ว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่เชื่อถือได้มากที่สุด

วิธีเช็กอีเมลของคุณว่าถูก “Pwned” หรือไม่
เมื่อคุณเข้าสู่เว็บไซต์ https://haveibeenpwned.com/ คุณจะเห็นหน้าจอที่ดูสะอาดตา โดยมีคำว่า "Have I Been Pwned" ตัวใหญ่เด่นอยู่ตรงกลาง พร้อมข้อความว่า "Check if your email address is in a data breach"
ขั้นตอนการใช้งานก็ง่ายแสนง่าย เพียงไม่กี่คลิก:
- กรอกอีเมลของคุณ: คุณจะเห็นช่องว่างขนาดใหญ่ที่มีคำว่า "Email address" ให้คุณพิมพ์ที่อยู่อีเมลที่คุณต้องการตรวจสอบลงไปในช่องนั้น
- กด "Check": หลังจากกรอกอีเมลแล้ว ให้คลิกที่ปุ่มสีน้ำเงินที่เขียนว่า "Check" ที่อยู่ข้างๆ ช่องกรอกอีเมลได้เลย
- รอผลลัพธ์: เว็บไซต์จะใช้เวลาไม่กี่วินาทีในการตรวจสอบอีเมลของคุณกับฐานข้อมูลขนาดใหญ่
ผลลัพธ์ที่คุณอาจเจอ:
- Good news — no pwnage found!" หากคุณเห็นข้อความนี้ พร้อมพื้นหลังสีเขียว แสดงว่าอีเมลของคุณไม่พบข้อมูลอยู่ในฐานข้อมูลการละเมิดข้อมูลสาธารณะของ HIBP ซึ่งถือเป็นข่าวดี!
- "Oh no — pwned!" ถ้าเจอข้อความนี้ พร้อมพื้นหลังสีแดง ไม่ต้องตกใจ! นั่นหมายความว่าอีเมลของคุณเคยปรากฏอยู่ในฐานข้อมูลที่มีการรั่วไหล อย่างน้อยหนึ่งครั้ง เว็บไซต์จะแสดงรายละเอียดเพิ่มเติมว่าข้อมูลของคุณรั่วไหลจากเหตุการณ์ใดบ้าง และข้อมูลประเภทใดที่อาจถูกเปิดเผย (เช่น อีเมล, รหัสผ่าน, ชื่อผู้ใช้)
หากพบว่าอีเมลของคุณถูก Pwned แล้วควรทำอย่างไร?
ถ้าพบว่าอีเมลของคุณอยู่ในรายการที่ถูก "pwned" นี่คือสิ่งที่คุณควรทำทันที:
- เปลี่ยนรหัสผ่านทั้งหมด: ไปที่บัญชีทั้งหมดที่ใช้อีเมลนั้นเป็นชื่อผู้ใช้หรือเชื่อมโยงอยู่ แล้วเปลี่ยนรหัสผ่านให้เป็นรหัสที่ ซับซ้อนและไม่ซ้ำกัน ใช้ตัวอักษรใหญ่ เล็ก ตัวเลข และสัญลักษณ์ผสมกัน
- เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนแบบสองชั้น (2FA/MFA): นี่คือปราการด่านที่สองที่สำคัญมาก! การเปิด 2FA จะทำให้แม้แฮกเกอร์รู้รหัสผ่านของคุณ ก็ยังไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้หากไม่มีรหัสยืนยันอีกชั้นจากโทรศัพท์ของคุณ
- ตรวจสอบกิจกรรมที่น่าสงสัย: เข้าไปเช็กในบัญชีอีเมลและโซเชียลมีเดียของคุณ ว่ามีกิจกรรมแปลกๆ เกิดขึ้นหรือไม่ เช่น อีเมลที่ถูกส่งโดยคุณไม่ได้ส่ง, การเข้าสู่ระบบจากอุปกรณ์ที่ไม่รู้จัก หรือการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนตัว
- ระมัดระวังอีเมลฟิชชิ่ง: หลังจากข้อมูลรั่วไหล คุณอาจตกเป็นเป้าหมายของอีเมลฟิชชิ่งมากขึ้น ห้ามคลิกลิงก์แปลกๆ หรือดาวน์โหลดไฟล์แนบที่ไม่รู้จักเด็ดขาด
HIBP เชื่อถือได้แค่ไหน?
เว็บไซต์นี้ได้รับการยอมรับจากองค์กรระดับโลกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น FBI, UK NCSC, Australian Cyber Security Centre และยังเคยถูกพูดถึงในสื่อชั้นนำอย่าง BBC, Forbes, Wired, The Guardian ฯลฯ ด้วยการรับรองเหล่านี้ คุณจึงมั่นใจได้ว่า HIBP เป็นเครื่องมือที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้อย่างแท้จริง
HIBP ไม่เก็บรหัสผ่าน ไม่ส่งข้อมูลของคุณไปที่อื่น และใช้เทคนิคความเป็นส่วนตัวอย่าง k-Anonymity ในการเช็กรหัสผ่าน ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยในการใช้งานข้อมูลของคุณ
หมายเหตุเพิ่มเติม
HIBP จะแสดงเฉพาะข้อมูลที่ “หลุดสู่สาธารณะ” แล้วเท่านั้น หากข้อมูลของคุณถูกแฮกแบบเฉพาะเจาะจงหรือยังไม่ถูกเปิดเผย ก็อาจไม่ปรากฏบนระบบนี้
ดังนั้น การป้องกันที่ดีที่สุดคือการ ตั้งรหัสผ่านแข็งแรง, เปิด 2FA, และเฝ้าระวังความผิดปกติในบัญชีออนไลน์ของคุณเสมอ