การเตรียมพร้อมในการใช้งานคอมพิวเตอร์ในอนาคต จำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์ที่แข็งแกร่งในการนำ AI มาปรับใช้กับผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัย และต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า ปัจจุบันอาชญากรนำ AI ไปใช้สร้างภัยคุกคามอย่างไร
ความปลอดภัยทางไซเบอร์ ไม่ใช่แค่เรื่องของการปกป้องอุปกรณ์ตลอด 24 ชั่วโมง หรือการไล่ตามไวรัสตัวล่าสุดเท่านั้น ผู้นำในอุตสาหกรรมอย่าง ESET จำเป็นต้องคิดล่วงหน้า และเตรียมความพร้อมให้กับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในอนาคตอยู่เสมอ ด้วยความพยายามในการส่งมอบการป้องกันที่ล้ำสมัยที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้ไปยังผู้ใช้งาน ก็ส่งผลสำเร็จ ทำให้ ESET ได้รับการจัดอันดับให้เป็น "ผู้นำ" (Leader) ในรายงาน IDC MarketScape: Worldwide Consumer Digital Life Protection 2025 Vendor Assessment (เอกสาร #US52976725, ตุลาคม 2025)
ในรายงานของ IDC MarketScape ระบุว่า "ESET เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม สำหรับผู้ใช้งานรายบุคคล, ครอบครัว และผู้ใช้งานระดับ SOHO (Small Office/Home Office) ที่กำลังมองหาการปกป้องชีวิตในโลกดิจิทัล ที่เชื่อถือได้และไม่หน่วงเครื่อง แนวทางการป้องกันเชิงรุกเป็นหลักของ ESET เหมาะอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญ กับมาตรการรักษาความปลอดภัย ที่ทำงานล่วงหน้า โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพของอุปกรณ์"
ผู้นำด้านการปกป้องชีวิตดิจิทัลของผู้ใช้งานทั่วไป
ESET มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 30 ปี และได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมายที่เราเชื่อว่าได้ช่วยสร้างความแตกต่างให้กับเรา รากฐานของโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่ทันสมัยของเรา สามารถย้อนกลับไปได้ถึงช่วงทศวรรษ 1990 เมื่อ ESET ได้นำเทคโนโลยีแมชชีนเลิร์นนิง (Machine Learning) มาใช้เพื่อตรวจจับไวรัสมาโคร เราเชื่อว่าการยอมรับจาก IDC MarketScape เป็นการยืนยันว่า ESET ยังคงเดินมาถูกทาง และที่สำคัญคือคนอื่นก็เห็นเช่นนั้นด้วย
เมื่อต้นปีนี้ AV-Comparatives ได้ยกย่องให้ ESET HOME Security Essential เป็นผลิตภัณฑ์แห่งปี (Product of the Year) โดยชื่นชมในด้านการป้องกันมัลแวร์เชิงรุกที่โดดเด่น, มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพของเครื่องน้อย และมีการจัดการที่ง่ายดายสำหรับผู้ใช้ทั่วไป แต่ก็ยังมีการปรับแต่งขั้นสูงสำหรับผู้ใช้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค
กลยุทธ์ด้าน AI ของ ESET
ESET ได้ใช้ประโยชน์จาก AI และแมชชีนเลิร์นนิงมานานกว่าสองทศวรรษ และปัจจุบัน กำลังมุ่งเน้นไปที่การผสมผสานเทคโนโลยีการตรวจจับอัตโนมัติ เข้ากับความสามารถล่าสุดของ AI ที่ทำงานได้ด้วยตนเอง เทคโนโลยีเหล่านี้ ถูกนำไปใช้ในหลายชั้นของโซลูชันรักษาความปลอดภัยของเรา เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับการปกป้องบนระบบปฏิบัติการหลักๆ ทั้งหมด และป้องกันภัยคุกคามทั้งที่รู้จักกันทั่วไป และที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน รวมถึงป้องกันได้ในหลายขั้นตอนของการโจมตี ตั้งแต่อีเมลสแปมที่ดูไม่มีพิษภัยเข้ามาในกล่องจดหมาย ไปจนถึงแรนซัมแวร์ที่กำลังอยู่ในกระบวนการล็อกไฟล์บนคอมพิวเตอร์ของเหยื่อ
ด้วยการดำเนินตามกลยุทธ์ที่เน้น AI เป็นหลัก ตอนนี้ ESET กำลังผสมผสานเทคโนโลยีการตรวจจับอัตโนมัติ เข้ากับความสามารถของ AI เชิงรุกที่เกิดขึ้นใหม่ ทำให้การรักษาความปลอดภัยเป็นไปในเชิงรุก และง่ายดายสำหรับผู้ใช้มากขึ้น
ทำความรู้จักกับ "สมองกล AI" ของ ESET — AI ปกป้องอุปกรณ์ได้อย่างไร
ด้วยแนวทางนี้ วิศวกรของเราได้สร้างโซลูชันของ ESET ขึ้นมา เพื่อจัดการกับซอฟต์แวร์ที่น่าสงสัย เหมือนกับที่นักวิทยาศาสตร์ตรวจสอบตัวอย่างใหม่ๆ เทคโนโลยีที่เป็นหนึ่งเดียวนี้เรียกว่า ESET LiveSense
ลองมาดูกันว่า "สมอง" ของนักวิทยาศาสตร์คนนี้ทำงานอย่างไร:
- ขั้นแรก เทคโนโลยีของ ESET จะตรวจสอบแหล่งที่มาของภัยคุกคามที่อาจเข้ามา และหากน่าสงสัย ผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือน
- จากนั้น โซลูชันของ ESET จะใช้โมดูล AI ขั้นสูง ซึ่งเป็นการรวมกันของอัลกอริทึมหลายตัว รวมถึงโมเดล Deep-Learning เพื่อประเมินภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น และ "DNA" ของซอฟต์แวร์ที่น่าสงสัย หรือก็คือคุณสมบัติหลักของมันนั่นเอง
- หลังจากการประเมินเบื้องต้น เทคโนโลยี ESET LiveGuard จะตรวจสอบพฤติกรรมของตัวอย่างนั้น ภายในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และจำลองขึ้นมาที่เรียกว่า "Sandbox" เพื่อสังเกตพฤติกรรมของมันต่อไป
- หากมัลแวร์สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ได้ แม้จะมีมาตรการรักษาความปลอดภัย ที่กล่าวมาข้างต้น โซลูชันของ ESET ก็ยังสามารถดำเนินการป้องกันได้ ผ่านการตรวจสอบกระบวนการทำงานต่างๆ บนอุปกรณ์ที่ได้รับการป้องกันอยู่
AI ของ ESET สามารถเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของกระบวนการ (ที่เป็นอันตราย) เหล่านี้ ผ่านข้อมูลที่รวบรวมจากความเชี่ยวชาญของมนุษย์ และข้อมูลที่ได้จากผู้ใช้กว่า 1 พันล้านคนใน 195 ประเทศ ด้วยแนวทางที่เน้น AI และการผสมผสานระหว่าง การวิจัยความปลอดภัยที่นำโดยมนุษย์ และการรวบรวมข้อมูลที่นำโดยเครื่องจักร
ESET จึงสามารถยกระดับโซลูชันของตนได้อย่างมีนัยสำคัญ เพิ่มประสิทธิภาพในการต่อสู้กับการหลอกลวง, ฟิชชิ่ง, การโจมตีผ่านสคริปต์, มัลแวร์แบบไม่ใช้ไฟล์ (Fileless Malware), การโจมตีแบบ "Living off the Land" และมัลแวร์ชนิดใหม่ๆ ที่สามารถโจมตีได้หลายระบบปฏิบัติการพร้อมกัน
การรักษาความปลอดภัย ให้กับอุปกรณ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับบ้านและธุรกิจขนาดเล็ก
เมื่อมีความสามารถทั้งหมดนี้อยู่ในมือ นักวิจัยของ ESET ได้เฝ้าสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิดว่าโซลูชันของ ESET ที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถสกัดกั้นมัลแวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ได้อย่างไร ตัวอย่างเช่น กรณีที่อาชญากรไซเบอร์สร้างวิดีโอ Deepfake เพื่อหลอกระบบรักษาความปลอดภัย และการยืนยันตัวตนของธนาคาร
จากการสังเกตการณ์เหล่านี้ วิศวกรของ ESET ได้ปรับปรุงโซลูชันอย่างรวดเร็ว เพื่อรองรับคอมพิวเตอร์ AI (AI PC) ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน คอมพิวเตอร์เหล่านี้ ประกอบด้วยหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) สำหรับงานที่ต้องการการตอบสนองอย่างรวดเร็ว, หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) สำหรับงานขนาดใหญ่ เช่น การเรนเดอร์วิดีโอและกราฟิก และงาน AI ขนาดใหญ่ที่ต้องการประสิทธิภาพสูง และสุดท้ายคือการนำหน่วยประมวลผล Neuron (NPU) - หรือหน่วยประมวลผลประสาท เข้ามาใช้ เพื่อปรับปรุงการประมวลผลและประสิทธิภาพ ด้านพลังงานในระหว่างการทำงานของ AI ที่หนักและต่อเนื่อง
ซอฟต์แวร์ Endpoint Security ของ ESET ได้ผสานการทำงานเข้ากับสถาปัตยกรรมใหม่ๆ อย่างฮาร์ดแวร์ Intel® AI PC โดยเฉพาะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจจับมัลแวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และวิเคราะห์ข้อมูล (Telemetry) สำหรับภัยคุกคามทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก
ด้วยการแบ่งเบาภาระงานตรวจจับด้วย AI ไปให้ NPU ประมวลผลแทน ESET ช่วยลดภาระการทำงานของ CPU ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมดีขึ้น และประหยัดพลังงานมากขึ้น การผสานรวมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์นี้ ช่วยเสริมความแข็งแกร่งในการตรวจจับภัยคุกคาม, ลดความเสี่ยงข้อมูลรั่วไหล และเตรียมความพร้อมด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ สำหรับสภาพแวดล้อมการทำงานแบบไฮบริดในอนาคต
สิ่งเหล่านี้มีความหมายกับคุณอย่างไร
ในโลกที่ AI เข้ามามีบทบาทในเทคโนโลยีประจำวันมากขึ้น และในขณะเดียวกันอาชญากรไซเบอร์ ก็นำข้อดีของมันไปใช้ในทางที่ผิด เพื่อขโมยเงินและข้อมูล การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เชื่อถือได้ จึงต้องก้าวนำหน้าอยู่เสมอ และพร้อมสำหรับภัยคุกคามที่ยังมาไม่ถึง การป้องกันที่ขับเคลื่อนด้วย AI ของ ESET ช่วยให้มั่นใจได้ว่า ผู้ใช้และอุปกรณ์อัจฉริยะของพวกเขา จะปลอดภัยในภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลานี้ โดยมุ่งเน้นไปที่การป้องกัน—นั่นคือการหยุดมัลแวร์ก่อนที่มันจะสร้างความเสียหายได้
ยิ่งไปกว่านั้น ESET เข้าใจดีว่าความปลอดภัยทางไซเบอร์ชั้นยอด ไม่ได้มีแค่ฟีเจอร์ต่อต้านมัลแวร์ที่ทรงพลังเท่านั้น แต่ยังต้องมีการจัดการที่ง่าย, มีประสิทธิภาพ และส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพของเครื่องน้อยที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ผู้ดูแลระบบในบ้าน, เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก, เกมเมอร์ หรือใครก็ตามที่ทำงานกับข้อมูลจำนวนมากต้องการ
ธุรกิจขนาดเล็กที่ตกอยู่ในความวุ่นวายของยุค AI
การเติบโตอย่างรวดเร็วของ AI ทำให้ธุรกิจขนาดเล็ก ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก: ธุรกิจกลุ่มนี้เป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจส่วนใหญ่ทั่วโลก แต่ในขณะเดียวกัน สำนักงานขนาดเล็ก/โฮมออฟฟิศที่จัดการข้อมูลทางการเงิน และข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของลูกค้า ก็เป็นเป้าหมายยอดนิยมของอาชญากรไซเบอร์ ที่ใช้เครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อเปิดการโจมตีที่เป็นอันตรายและซับซ้อน
ภัยคุกคามแบบนี้ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น เนื่องจากเครื่องมือ AI ช่วยให้ผู้โจมตีที่มีทักษะน้อย ก็สามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น นักวิจัยของ ESET เพิ่งพบ แรนซัมแวร์ที่เขียนด้วย AI เป็นครั้งแรก และคาดว่าจะมีตามมาอีกมาก
อย่างไรก็ตาม เจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก มักไม่มีงบประมาณในการติดตั้งระบบความปลอดภัยที่ซับซ้อน และไม่มีเวลาหรือทักษะในการจัดการมัน นอกจากนี้ พวกเขายังมักใช้อุปกรณ์เดียวกัน เพื่อการทำงานและเรื่องส่วนตัว ซึ่งเป็นการเปิดช่องทางใหม่ๆ ให้กับผู้โจมตี ด้วยเหตุนี้ ESET จึงได้สร้าง ESET Small Business Security ซึ่งเป็นโซลูชันที่ติดตั้งครั้งเดียวก็พร้อมใช้งาน ที่มอบการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่แข็งแกร่ง ตามที่ได้อธิบายไว้ข้างต้น ในขณะที่ยังคงความเบาและใช้งานง่าย
คุณสมบัติหลักๆ ได้แก่ การทำธุรกรรมออนไลน์และธนาคารที่ปลอดภัย, VPN, การรองรับ Network Signatures เพื่อบล็อกทราฟฟิกที่เป็นอันตราย, การปฏิบัติตามข้อกำหนด และการปกป้องข้อมูลด้วยการเข้ารหัส และการจัดการขั้นสูง, คุณสมบัติป้องกันการโจรกรรม, การล็อกระยะไกล และการระบุตำแหน่ง สำหรับอุปกรณ์ที่สูญหายหรือถูกขโมย
ด้วยวิธีนี้ ESET Small Business Security จะช่วยปกป้องอุปกรณ์อัจฉริยะมาตรฐานทั้งหมด รวมถึงสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, แล็ปท็อป และเซิร์ฟเวอร์ พร้อมการสนับสนุนฟรีในพื้นที่ ในราคาที่ไม่กระทบต่องบประมาณ
ความสบายใจในโลกที่เปลี่ยนแปลง
ไม่มีใครรู้ว่า AI จะไปได้ไกลแค่ไหน หรือจะเปลี่ยนแปลงโลกของเราไปอย่างไร แต่มีสิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ: อาชญากรไซเบอร์ พร้อมที่จะใช้มันเพื่อโจมตีคุณ และใช่ ทุกคนคือเป้าหมาย ESET ทราบดีถึงข้อนี้ และวิศวกรของเรามุ่งมั่นอย่างยิ่ง ที่จะทำความเข้าใจภัยคุกคามในอนาคต และหาวิธีการป้องกัน
คำถามที่พบบ่อย
1. ทำไม ESET ถึงได้รับการจัดอันดับเป็น "ผู้นำ" ในรายงาน IDC MarketScape: Worldwide Consumer Digital Life Protection 2025 Vendor Assessment?
ESET ได้รับการยอมรับจากจุดแข็งดังต่อไปนี้: "การที่ ESET มุ่งเน้นไปที่การป้องกัน ทำให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามในเชิงรุกผ่านเทคโนโลยีขั้นสูง และการป้องกันผ่านคลาวด์แบบเรียลไทม์ โซลูชันที่มีน้ำหนักเบาของ ESET ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาประสิทธิภาพของอุปกรณ์ ในขณะที่ยังคงให้ความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ SOHO ที่มักใช้อุปกรณ์ที่มีทรัพยากรจำกัด การผสมผสานระหว่างปัญญาประดิษฐ์ และความเชี่ยวชาญของมนุษย์ช่วยให้ ESET สามารถปรับตัวเข้ากับภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทำให้มั่นใจได้ว่า โซลูชันของบริษัท ยังคงมีความเกี่ยวข้องในภูมิทัศน์ความปลอดภัยทางไซเบอร์ ที่ไม่หยุดนิ่ง"
"แพลตฟอร์ม ESET HOME ช่วยให้การจัดการการตั้งค่าความปลอดภัยและอุปกรณ์ต่างๆ เป็นเรื่องง่าย การควบคุมจากส่วนกลางนี้ มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ SOHO ที่ต้องจัดการอุปกรณ์หลายเครื่อง เพราะช่วยลดความซับซ้อน และเพิ่มประสิทธิภาพ ความสามารถในการทำงานร่วมกับหลายแพลตฟอร์มของ ESET ทำให้ผู้ใช้สามารถปกป้องอุปกรณ์ได้หลากหลาย ตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงคอมพิวเตอร์ ทำให้เป็นตัวเลือกที่หลากหลายสำหรับการใช้งานทั้งส่วนตัวและในระดับมืออาชีพ"
2. อะไรคือสิ่งที่ทำให้กลยุทธ์ AI ของ ESET แตกต่าง?
ESET ใช้ AI และแมชชีนเลิร์นนิงมานานกว่า 20 ปี กลยุทธ์ AI ของบริษัทประกอบด้วย: การป้องกันภัยคุกคามหลายชั้น, แมชชีนเลิร์นนิง, การวิเคราะห์พฤติกรรม, การทดสอบในสภาพแวดล้อมจำลอง (Sandboxing), ที่ปรึกษา AI และการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งฝังอยู่ในฮาร์ดแวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI
3. ESET ปกป้องอุปกรณ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างไร?
โซลูชัน Endpoint แบบหลายชั้นของ ESET ได้รับการออกแบบมาให้รับรู้ถึงอุปกรณ์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และความสามารถในการป้องกันสำหรับอุปกรณ์ประเภทนี้ เป็นส่วนหนึ่งในแกนหลักการตรวจจับของ ESET อยู่แล้ว สำหรับผู้ใช้ นี่หมายถึงการผสานการทำงานที่ราบรื่น โดยไม่จำเป็นต้องมีการกำหนดค่าพิเศษใดๆ ตัวอย่างเช่น ในความร่วมมือกับ Intel, ESET สามารถรักษาความปลอดภัยให้กับระบบที่มี NPU ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจจับในขณะที่ส่งผลกระทบต่อระบบน้อยที่สุด
4. ESET เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กหรือไม่?
ใช่ โซลูชันของ ESET เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ใช้ SOHO (Small Office/Home Office) ที่ต้องการการป้องกันที่แข็งแกร่ง แต่อาจขาดทรัพยากรด้านการเงิน และบุคลากรเฉพาะด้าน ยิ่งไปกว่านั้น ธุรกิจขนาดเล็กเหล่านี้ ยังสามารถเพลิดเพลิน ไปกับการจัดการความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่ง่ายดาย, มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพของเครื่องน้อย และได้รับการสนับสนุนฟรีในพื้นที่
5. ESET ป้องกันแพลตฟอร์มและภัยคุกคามประเภทใดบ้าง?
ESET ให้การป้องกันข้ามแพลตฟอร์มจาก สแปม, ฟิชชิ่ง, การหลอกลวง และมัลแวร์ทั่วไป เช่น แรนซัมแวร์, โปรแกรมขโมยข้อมูล (Infostealers), แบ็คดอร์ (Backdoors), บอตเน็ต (Botnets) และอื่นๆ อีกมากมาย